วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

9 วันกับทริปอาจารย์จิ๋ว 9 สุดท้าย

บันทึกวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมพื้นถิ่น โบราณสถาน อารยธรรมแห่งเมืองเหนือ




วันที่ 9
12 กรกฎาคม 2552

ตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็ย้ายข้าวของลงมาเพื่อไปใส่ไว้ในรถ แล้วก็ข้ามไปกินข้าวที่ร้านเดิมเสร็จแล้วก็ออกเดินทางสู่กรุงเทพเมื่อถึงพิษณุโลกเราก็ไปที่วัดพระศรีมหาธาตุซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองถึง 2 องค์คือพระพุทธชินราศ พระพุทธชินสีห์ และอีก 2 องค์คือพระพุทธศาสดา และพระอัฐารสซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีอิริยาบถยืนประดิษฐานอยู่ทางด้าน
ทิศตะวันออกของวัด รูปแบบของวัดนี้จะมีทางเข้าอยู่ทางด้านทิศตะวันตกซึ่งตามคติการสร้างวัดแบบสุโขทัยนั้นจะสร้างหันหน้าไปทางทิศตะวันออกแต่ที่มีทางเข้าอยู่ทางทิศตะวันตกนี้เป็นเพราะมีการบูรณะและปรับปรุงใหม่ในสมัยอยุธยาคือจะหันหน้าไปทางแม่น้ำตามคติของทางอยุธยา เพราะว่าเมืองพิษณุโลกมีลักษณะเป็นเมืองอกแตกมีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน อีกทั้งเมื่อหันหน้าไปทางทิศตะวันตกทางขึ้นเดิมของเจดีย์จึงกลายเป็นว่าไปอยู่ด้านหลังคือทิศตะวันออก ผังของวัดก็ได้สเกตซ์มาคร่าวๆตามที่ อ.จิมมี่อธิบาย นอกจากนี้ระเบียงคดจะมี 2 ส่วนคือรอบฐานเจดีย์ตามคติแบบลังกา และล้อมแสดงเขตพื้นที่ของวัดตามคติแบบขอม ทำให้มีการวางพระพุทธรูปที่เปรียบเสมือนภิกษุสงฆ์ล้อมรอบฐานเจดีย์และอีกลักษณะคือวางพิงกำแพงด้านนอกของระเบียงคดส่วนที่ใช้เป็นเขตกำกับบริเวณของวัด ฉะนั้นเมื่อเราเดินไปทางด้านหลังที่เป็นทางเดินซ้อนทับกันของระเบียงคดทั้งสองแบบจะพบว่าพระพุทธรูปนั่งหันไปคนละทางและพบทางขึ้นไปสู่ด้านบนเจดีย์ ถ้าดูในผังที่วาดมาคร่าวๆก็จะเข้าใจง่าย เสร็จเราก็ข้ามถนนไปอีกวัดนึงคือวัดราชบูรณะเข้าไปในตัววิหารซึ่งเป็นลักษณะของวิหารแบบสุโขทัยแท้
อุโบสถของวัดราชบูรณะ

ไม่ตีฝ้าเพดานระนาบซับซ้อน เสริมด้วยจังหวะที่เกิดจากเส้นของกลอน และแป ในส่วนโครงสร้างหลังคานั้นมีแผ่นกระดานรับกลอนของชายคาปีกนก และด้วยระดับของโครงสร้างหลังคาที่ต่างกันทำให้เกิดการแบ่งห้วงของโถงกลางอย่างชัดเจน อีกส่วน
วิหารของวัดราชบูรณะ

ของวัดคือโบสถ์ที่ความสวยงามไม่เท่ากับวิหารอาจเป็นเพราะการบูรณะซ่อมแซมที่อาจไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดเท่าที่ควรทำให้เกิดเป็นอย่างที่เห็น เสร็จแล้วเราก็เดินข้ามสะพานลอยกลับไปกินข้าวกลางวันซื้อของฝากให้น้องและคนที่บ้าน
ภายในวิหารเห็นไม้กระดานรับกลอน
แต่ของฝากของตัวเองนั้นประทับใจมากคือ คมแฝก ราคา 90 บาทจาก 100 บาท เมื่อช็อปปิ้งเรียบร้อย เราก็ขึ้นรถเตรียมตัวมุ่งหน้าสู่ลาดกระบังรวดเดียว ขณะนั่งรถบัสในขากลับนี้ นอกจากกิจกรรมร้องเพลงที่เรานำมาทำแก้ว่างก็มีเหตุการณ์ชวนตื่นเต้นอย่างมากเกิดขึ้น คือเพื่อนผู้ชายคนหนึ่งบอกความในใจกับเพื่อนผู้หญิงที่ตัวเองชอบซึ่งเค้ามีแฟนแล้ว ด้วยการร้องบอกเป็นเพลงไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับ นศ.ชั้นปีที่5 ก็เป็นเหตุการณ์ปิดท้ายทริปที่ตื่นเต้นมากๆ เราได้แวะซื้อโมจินิดหน่อยแล้วก็มุ่งตรงสู่ลาดกระบังจนมาถึงจุดหมายในเวลาเกือบ 5 ทุ่ม เหตุการณ์ปิดท้ายจริงเกิดขึ้นในช่วงที่เราช่วยกันเก็บกวาดของลงจากรถผลก็คือของฝากหายไปหนึ่งถุงเป็นโมจิและกาละแมจากพิษณุโลก จนวันนี้ก็ยังไม่เจอ แล้วเราก็แยกย้ายไปกินข้าวกลับหอนอนหมดแรง.....จบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น